Skip to main content

Posts

Showing posts with the label LearnThai

Thai constitution

  คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้น - เคล็ดลับ คำแนะนำ แหล่งข้อมูล และวิธีการเริ่มต้น คำอธิบายภาษาไทย (คำสำคัญ ภาษาไทย อักษรไทย เรียนอักษรไทย) วิธีการเริ่มต้นการเรียนรู้พื้นฐานของไวยากรณ์ภาษาไทย คีย์เวิร์ด: เรียนภาษาไทยง่าย ๆ, เรียนเคล็ดลับไวยากรณ์ไทย กลยุทธ์ที่ดีสำหรับการเรียนภาษาไทยคืออะไร? คีย์เวิร์ด: งานติวเตอร์พาร์ทไทม์ในกรุงเทพ สอนภาษาอังกฤษ & เรียนภาษาไทย ระดับเริ่มต้น เคล็ดลับในการแลกเปลี่ยนภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยกับพันธมิตรแลกเปลี่ยนภาษาท้องถิ่น คีย์เวิร์ด: คู่แลกเปลี่ยนภาษาในกรุงเทพ, แลกเปลี่ยนภาษาในกรุงเทพ ข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการเมื่อพูดภาษาไทยมีอะไรบ้าง บทสรุป: วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และพูดภาษาไทยอย่างรวดเร็ว คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้นและวิธีการเริ่มต้นใช้งานวันนี้ บทนำ คีย์เวิร์ด: ไทย, เมืองไทย, ภาษาไต้หวัน ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้ภาษาไทย: ระดับภาษาใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คำสำคัญ: ภาษาไต้หวัน, ระดับภาษา, แหล่งเรียนรู้ภาษาไทย, คู่มือภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้น วิธีการเรียนรู้อักษรไทยและการอ่านอักษรโรมัน คำสำคัญ:...

Learning Thai For Beginners

  คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้น - เคล็ดลับ คำแนะนำ แหล่งข้อมูล และวิธีการเริ่มต้น คำอธิบายภาษาไทย (คำสำคัญ ภาษาไทย อักษรไทย เรียนอักษรไทย) วิธีการเริ่มต้นการเรียนรู้พื้นฐานของไวยากรณ์ภาษาไทย คีย์เวิร์ด: เรียนภาษาไทยง่าย ๆ, เรียนเคล็ดลับไวยากรณ์ไทย กลยุทธ์ที่ดีสำหรับการเรียนภาษาไทยคืออะไร? คีย์เวิร์ด: งานติวเตอร์พาร์ทไทม์ในกรุงเทพ สอนภาษาอังกฤษ & เรียนภาษาไทย ระดับเริ่มต้น เคล็ดลับในการแลกเปลี่ยนภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยกับพันธมิตรแลกเปลี่ยนภาษาท้องถิ่น คีย์เวิร์ด: คู่แลกเปลี่ยนภาษาในกรุงเทพ, แลกเปลี่ยนภาษาในกรุงเทพ ข้อผิดพลาดทั่วไปบางประการเมื่อพูดภาษาไทยมีอะไรบ้าง บทสรุป: วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และพูดภาษาไทยอย่างรวดเร็ว คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้นและวิธีการเริ่มต้นใช้งานวันนี้ บทนำ คีย์เวิร์ด: ไทย, เมืองไทย, ภาษาไต้หวัน ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้ภาษาไทย: ระดับภาษาใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คำสำคัญ: ภาษาไต้หวัน, ระดับภาษา, แหล่งเรียนรู้ภาษาไทย, คู่มือภาษาไทยสำหรับผู้เริ่มต้น วิธีการเรียนรู้อักษรไทยและการอ่านอักษรโรมัน คำสำคัญ:...

ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย

ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย วันจันทร์ ที่ 11 เมษายน 2565 • ยูเครนเตือนประชาชนอพยพด่วน! หลังรัสเซียระดมโจมตีภาคตะวันออกรอบใหม่ • ปูตินแต่งตั้งผู้บัญชาการกองทัพคนใหม่ดูแลสงครามยูเครน • ชาวศรีลังกาบุกยึดสำนักงานประธานาธิบดีสองวันติดต่อกัน • ไขปัญหา: โควิดจะกลายพันธุ์ในสัตว์แล้วระบาดกลับสู่มนุษย์อีกหรือไม่?

รูปสระ

๑. ะ (วิสรรชนีย์) ใช้เป็นสระอะเมื่ออยู่หลังพยัญชนะ เช่น ปะ กะ และใช้ประสมกับสระรูปอื่น ให้เป็นสระอื่น เช่น เตะ แตะ โต๊ะ เอียะ อัวะ ๒. -ั (ไม้ผัด, ไม้หันอากาศ) ใช้เขียนบนพยัญชนะแทนเสียงสระอะเมื่อมีตัวสะกด เช่น มัด และประสมกับสระรูปอื่น เช่น ตัว ผัวะ ๓. -็ (ไม้ไต่คู้) ใช้ เขียนไว้บนพยัญชนะที่ประสมกับรัสสระที่มีวิสรรชนีย์ เพื่อแทนวิสรรชนีย์เมื่อมีตัวสะกด เช่น เจ็ด (เจะ+ด) และใช้แทนสระเอาะที่มีวรรณยุกต์โท ที่มีคำเดียวคือคำว่า ก็ (เก้าะ ) ๔. า (ลากข้าง) ใช้เป็นสระอา สำหรับเขียนหลังพยัญชนะและใช้ประสมกับรูปสระรูปอื่นเป็นสระ เอาะ อำ เอา เช่น เกาะ ลำเพา ๕. -ิ (พินทุ์อิ) ใช้เป็นสระอิ สำหรับเขียนไว้บนพยัญชนะ เช่น ซิ ผลิ และใช้ประสมกับสระรูปอื่นให้เป็นสระ อี อือ เอียะ เอีย เอือะ เอือ เช่น ผี คือ เกี๊ยะ เสีย เสือ ๖. -่ (ฝนทอง) ใช้เขียนไว้ข้างบนพินทุ์อิ ทำให้เป็นสระอี เช่น ผี มี ปี ๗. " (ฟันหนู) ใช้เขียนไว้ข้างบนพินทุ์อิเป็นสระอือ เอือะ เอือ เช่น มือ เสือ ๘. -ํ (หยาดน้ำค้าง, นฤคหิต) ใช้เขียนไว้ข้างบนลากข้าง ทำให้เป็นสระอำ ( ำ) และเขียนบนพินทุ์อิเป็นสระอึ เช่น จำนำ...

หลักภาษาไทย

1. สระ รูปสระมี 21 รูป และมีชื่อเรียกต่าง ๆ ดังนี้ 1. ะ วิสรรชนีย์ 12. ใ ไม้ม้วน 2. อั ไม้หันอากาศ 13. ไ ไม้มลาย 3. อ็ ไม้ไต่คู้ 14. โ ไม้โอ 4. า ลากข้าง 15. อ ตัว ออ 5. อิ พินทุ์อิ 16. ย ตัว ยอ 6. ‘ ฝนทอง 17. ว ตัว วอ 7. อํ นิคหิตหรือหยาดน้ำค้าง 18. ฤ ตัว รึ 8. ” ฟันหนู 19. ฤๅ ตัว รือ 9. อุ ตีนเหยียด 20. ฦ ตัว ลึ 10. อู ตีนคู้ 21.ฦๅ ตัวลือ 21. ฦา ตัว ลือ 11. เ ไม้หน้า เสียงสระเมื่อนำรูปสระทั้ง 21 รูป มารวมกัน จะได้สระทั้งหมด 32 เสียง จำแนกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ - สระแท้ มี 18 เสียง แบ่งออกเป็น สระเสียงสั้น ได้แก่ อะ อิ อึ อึ เอะ เออะ โอะ แอะ เอาะ สระเสียงยาว ได้แก่ อา อี อื อู เอ เออ โอ แอ ออ - สระประสม มี 6 เสียง ได้แก่ เอีย เกิดจากเสียง -ี + -า ...

พยางค์

การที่เราเปล่งเสียงออกมาจากลำคอครั้งหนึ่ง ๆ นั้น เราเรียกเสียงที่เปล่งออกมาว่า “พยางค์” แม้ว่าเสียงที่เปล่งออกมาจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ตาม เช่น เราเปล่งเสียง “สุ” ถึงจะไม่ รู้ความหมาย หรือไม่รู้เรื่องเราก็เรียกว่า ๑ พยางค์ หากเราเปล่งเสียงออกมาอีกครั้งหนึ่งว่า “กร” จะ เป็น “สุกร” จึงจะมีความหมาย คำว่า “สุกร” ซึ่งเปล่งเสียง ๒ ครั้ง เราก็ถือว่ามี๒ พยางค์ เสียงที่เปล่ง ออกมาครั้งเดียวมีความหมาย เช่น นา หมายถึง ที่ปลูกข้าว เสียงที่เปล่งออกมาว่า “นา” นี้เป็น ๑ พยางค์ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ ไร่ มี๑ พยางค์ ชาวไร่ มี๒ พยางค์ (ชาว-ไร่) สหกรณ์ มี๓ พยางค์ (สะ-หะ-กอน) โรงพยาบาล มี๔ พยางค์ (โรง-พะ-ยา-บาน) นักศึกษาผู้ใหญ่ มี๕ พยางค์ (นัก-สึก-สา-ผู้-ใหญ่) สหกรณ์การเกษตร มี๖ พยางค์ (สะ-หะ-กอน-การ-กะ-เสด) จากตัวอย่างข้างบนนี้สรุปได้ว่า พยางค์ คือ เสียงที่เปล่งออกมาครั้งหนึ่ง จะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ตาม ถ้าเปล่ง เสียงออกมา ๑ ครั้ง ก็เรียก ๑ พยางค์ สองครั้งก็เรียก ๒ พยางค์ องค์ประกอบของพยางค์ พยางค์เกิดจากการเปล่งเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ออกมาพร้อม ๆ กัน พยางค์ที่มี ความหมายอาจจะเป็นพยา...

วลี

ชนิดของวลีตามแนวหลักภาษาเดิม มี ๗ ชนิดดังนี้ ๑.๑ นามวลี หมายถึง วลีที่มีคำนามนำหน้า เช่น ถนนสายหนึ่ง พระรูปที่ ๕ จังหวัดนครพนม นาฬิกาข้อมือเรือนทอง ชาวเมืองสกลนคร อาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ๑.๒ สรรพนามวลี หมายถึง วลีที่มีคำสรรพนามนำหน้า หรือ วลีที่ทำหน้าที่เป็นคำสรรพนาม เช่น ข้าพเจ้า ข้าพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า ใต้เท้า ใต้ฝ่าพระบาท ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระองค์ ท้าวเธอ ๑.๓ กริยาวลี หมายถึง วลีที่มีคำนำหน้า โยมีความหมายเป็นเรื่องเดียวกัน เช่น นั่งร้องเพลง ทำงานหนัก เป็นหนังหน้าไฟ หวังแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียว ถึงแก่กรรม เสด็จสวรรคาลัยสุรโลก ๑.๔ วิเศษณ์วลี หมายถึง วลีที่มีคำวิเศษณ์นำหน้า และทำหน้าที่ประกอบคำอื่นอย่างเดียวกับคำวิเศษณ์อาจประกอบนาม ขยายกริยา ขยายวิเศษณ์ด้วยกันเองก็ได้ เช่น ช้างสามเชือก (ขยายนาม) เราสามคน (ขยายสรรพนาม) เขากินข้าวจุเหลือประมาณ (ขยายกริยา) เขาคงงามเลิศเหลือประมาณ (ขยายวิเศษณ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นกริยา) ๑.๕ บุพบทวลี หมายถึง วลีที่มีคำบุพบทอยู่หน้าคำอื่น อาจอยู่หน้าคำอื่น อาจอยู่หน้าคำนาม สรรพนามหรือกริยา สภาวมาลา เช่น ข้าแต่สมาชิกทั้งหลาย (นำหน้านาม) ข้าแต่ท่านทั้งหลาย (นำหน้าสรร...

อักษรควบ

คำควบกล้ำ ( อักษรควบ ) หมายถึง พยัญชนะสองตัวเขียนเรียงกันอยู่ต้นพยางค์ และใช้สระเดียวกัน เวลาอ่านออกเสียงกล้ำเป็นพยางค์เดียวกัน เสียงวรรณยุกต์ของพยางค์นั้นจะผันเป็นไปตามเสียงพยัญชนะตัวหน้า คำควบกล้ำ ( อักษรควบ ) มี 2 ชนิด คือ คำควบแท้ ได้แก่ พยัญชนะ ร ล ว ควบกับพยัญชนะตัวหน้า ประสมสระตัวเดียวกัน เวลาอ่านออกเสียงพยัญชนะทั้งสองตัวพร้อมกัน เช่น พยัญชนะต้นควบกับ ร ได้แก่ ครู เพราะ ครัว กรน ปรวนแปร ขรุขระ พระ ตรง ครั้ง กราบ โปรด ปรักปรำ ครื้นเครง เคร่งครัด ครอบ ปรอย กรอง พยัญชนะต้นควบกับ ล ได้แก่ เปล่า ปลีก คลาน คลุก เคล้า เปลี่ยนแปลง กลบ กลม เพลิดเพลิน เกลี้ยกล่อม เกลียวคลื่น คล่องแคล่ว เกล้า พยัญชนะต้นควบกับ ว ได้แก่ กวาด ขวาน ควาย ขวิด แคว่งคว้าง แขวน ขวนขวาย คว่ำ ควาญ แกว่งไกว ความ แคว้น ขวัญ ควัน คำควบไม่แท้ ได้แก่ พยัญชนะ ร ควบกับพยัญชนะตัวหน้าประสมสระตัวเดียวกัน เวลาอ่านไม่ออกเสียง ร ออกเสียงเฉพาะตัวหน้าหรือมิฉะนั้นก็ออกเสียง เป็นเสียงอื่นไป คำควบไม่แท้ที่ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะตัวหน้า ได้แก่พยัญชนะ จ ซ ศ ส ควบกับ ร เช่น จริง ไซร้ เศร้า ศรี ศรัทธา สร้าง เสริม สร้อย สระ สรง สร่าง คำควบไม...

อักษรนำ

คือ คำที่มีพยัญชนะสองตัวเรียงกัน โดยพยัญชนะตัวแรกเป็นอักษรสูง หรืออักษรกลาง พยัญชนะตัวที่สองเป็นอักษรต่ำเดี่ยว (ง ญ ณ น ม ย ร ล ฬ ว) แล้วประสมสระเดียวกัน เวลอาออกเสียง พยัญชนะตัวแรกจะออกเสียง อะ กึ่งเสียง พยัญชนะตัวหลังจะออกเสียงเหมือนมี ห นำ ตัวอย่าง อักษรนำ อักษรสูงนำ อ่านว่า อักษรกลางนำ อ่านว่า ถล่ม ถะ-หล่ม ตลิ่ง ตะ-หลิ่ง ขนาด ขะ-หนาด อร่อย อะ-หร่อย กนก กะ-หนก จรัส จะ-หรัด หากพยัญชนะตัวที่สองเป็นอักษรต่ำที่นอกเหนือจากตัว ง ญ ณ น ม ย ร ล ฬ ว และอักษรกลางแล้ว เวลาอ่านออกเสียง พยัญชนะตัวเเรกจะออกเสียง อะ กึ่งเสียง ส่วนพยัญชนะตัวหลังจะออกเสียงตามสระที่มาประสม เช่น คำ อ่านว่า คำ อ่านว่า ไผท ผะ-ไท ...

คำบาลี คำสันสฤต

1.ภาษาบาลีมีสระ ๘ ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ 2.ภาษาบาลีมีพยัญชนะ ๓๓ ตัว แบ่งตามฐานที่เกิดได้ดังนี้ ก.พยัญชนะวรรคมี ๒๕ ตัว ได้แก่ พัญชนะวรรค/ฐาน ตัวที่ 1 ตัวที่ 2 ตัวที่ 3 ตัวที่ 4 ตัวที่ 5 วรรคที่ 1 ฐานคอ ก ข ค ฆ ง วรรคที่ 2 ฐานเพดาน จ ฉ ช ฌ ญ วรรคที่ 3 ฐานปุ่มเหงือก ฎ ฐ ฑ ฒ ณ วรรคที่ 4 ฐานฟัน ต ถ ท ธ น วรรคที่ 5 ฐานริมฝีปาก ป ผ พ ภ ม ข.เศษวรรคมี 8 ตัว ย ร ล ว ส ห ฬํ ° 3.ภาษาบาลีไม่มี ศ ษ 4.คำทุกคำในภาษาบาลีจะต้องมีตัวสะกดและตัวตาม เช่น วัฑฒนา ฑ เป็นตัวสะกด ฒ เป็นตัวตาม ตัวสะกดและตัวตามในภาษาบาลีจะเป็นไปตามกฎดังนี้ ก.พยัญชนะวรรคที่เป็นตัวสะกดได้ คือ ตัวที่ 1 3 5 ข.ในวรรคเดียวกันถ้าพยัญชนะตัวที่ 1 สะกด ตัวที่ 1 2 ตามได้ ค.ในวรรคเดียวกันถ้าพยัญชนะตัวที่ 3 สะกด ตัวที่ 3 4 ตามได้ ง.ในวรรคเดียวกันถ้าพยัญชนะตัวที่ 5 สะกด พยัญชนะทุกตัวในวรรคเดียวกันตามได้ ตัวอย่าง ตัวที่ 1 สะกด ตัวที่ 1 ตาม เช่น สักกะ ตัวที่ 1 สะกด ตัวที่ 2 ตาม เช่น ทุกข์ ตัวที่ 3 สะกด ตัวที่ 3 ตาม เช่น อัคคี ตัวที่ 3 สะกด ตัวที่ 4 ตาม เช่น พยัคฆ์ ตัวที่ 5 สะกด ตามได้ทุกตัว เช่น องก์ ...

คำสมาสและคำสนธิ

คำสมาส คำสมาส การสร้างคำสมาสในภาษาไทยได้แบบอย่างมาจากภาษาบาลีและสันสกฤต โดยนำคำบาลี-สันสกฤต ตั้งแต่สองคำมาต่อกันหรือรวมกัน ลักษณะของคำสมาสเป็นดังนี้ ๑. เป็นคำที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤตเท่านั้น คำที่มาจากภาษาอื่นๆ นำมาประสมกันไม่นับเป็นคำสมาส ตัวอย่างคำสมาส บาลี+บาลี อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย อริยสัจ ขัตติยมานะ อัจฉริยบุคคล สันสกฤต+สันสกฤต แพทยศาสตร์ วีรบุรุษ วีรสตรี สังคมวิทยา ศิลปกรรม บาลี+สันสกฤต, สันสกฤต+บาลี หัตถศึกษา นาฎศิลป์ สัจธรรม สามัญศึกษา ๒. คำที่รวมกันแล้วไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำแต่อย่างใด เช่น วัฒน+ธรรม = วัฒนธรรม สาร+คดี = สารคดี พิพิธ+ภัณฑ์ =พิพิธภัณฑ์ กาฬ+ปักษ์ = กาฬปักษ์ ทิพย+เนตร = ทิพยเนตร โลก+บาล = โลกบาล เสรี+ภาพ = เสรีภาพ สังฆ+นายก = สังฆนายก ๓. คำสมาสเมื่อออกเสียงต้องต่อเนื่องกัน เช่น ภูมิศาสตร์ อ่านว่า พู-มิ-สาด เกียรติประวัติ อ่านว่า เกียด-ติ-ประ-หวัด เศรษฐการ อ่านว่า เสด-ถะ-กาน รัฐมนตรี อ่านว่า รัด-ถะ-มน-ตรี เกตุมาลา อ่านว่า เก-ตุ-มา-ลา ๔. คำที่นำมาสมาสกันแล้ว ความหมายหลักอยู่ที่คำหลัง ส่วนความรองจะอยู่ข้างหน้า เช่น ยุทธ (รบ) + ภูมิ (แผ่นดิน สนาม) = ยุทธภูมิ (สนามรบ)...

คำเป็น คำตาย

คำเป็น 1. คำประสมด้วยสระเสียงยาว ในแม่ ก กา รวมทั้งสระเสียงสั้น อำ ใอ ไอ เอา 2. คำที่สะกดในแม่ กง กน กม เกย เกอว ตัวอย่างคำเป็น มา / ทำไม / ของ / คน / / สาย / กาว คำตาย 1. คำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้น ในแม่ ก กา ยกเว้น สระเสียงสั้น อำ ไอ ใอ เอา 2. คำที่สะกดในแม่ กก กด กบ ตัวอย่างคำตาย จะ / มัก / สัตว์ / ตับ คำครุ/คำลหุ คำครุ – คำลหุ คือ คำที่มีเสียงหนักเบาต่างกัน ซึ่งจำเป็นมากในการแต่งฉันท์ 1. คำครุ ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา รวมทั้ง สระเสียงสั้น อำ ไอ ใอ เอา 2. คำที่สะกดในทุกมาตรา คำลหุ 1. ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา ยกเว้น สระเสียงสั้น อำ ใอ ไอ เอา 2. ต้องไม่มีตัวสะกด คำอุปมา – อุปไมย คำอุปมาอุปไมย หรือ คำเปรียบเทียบ เป็นคำในภาษาไทยที่สั้น กะทัดรัด และนิยมพูดกันในชีวิตประจำวัน 1. เป็นคำพูดในเชิงต่อว่าหรือเปรียบเปรย (ทั้งในทางดีทางร้าย) 2. โดยผู้พูดยกเอาสิ่งแวดล้อมมาเทียบเคียงให้ผู้ฟังเห็นจริงไปตามนั้น 3. มักจะมีคำว่...

พยัญชนะ

พยัญชนะไทย แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ รูปพยัญชนะ และ เสียงพยัญชนะ พยัญชนะไทย มี ๔๔ รูป แต่มีเสียงเพียง ๒๑ เสียง เพราะบางรูปจะมีเสียงซ้ำกันดังนี้ พยัญชนะ ทั้ง ๔๔ รูป แบ่งออกเป็น ๓ หมู่ เรียกว่า   ไตรยางศ์   ได้แก่ ๑. อักษรกลาง   คือพยัญชนะที่สามารถผันวรรณยุกต์ได้ครบทั้ง ๕ เสียง มีทั้งหมด ๙ ตัว ได้แก่ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ ๒. อักษรสูง   คือพยัญชนะที่ ผันได้ไม่ครบทั้ง ๕ เสียง มี ๑๑ ตัว ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห ๓. อักษรต่ำ   คือ พยัญชนะที่ผันได้ไม่ครบ ๕ เสียง มีทั้งหมด ๒๔ ตัว โดยแบ่งเป็น ๒ พวกคือ -  อักษรต่ำคู่   คืออักษรต่ำที่มีเสียงคู่กับอักษรสูง มี ๑๔ ตัว คือ ค ฅ ฆ ช ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ฟ ภ ซ ฮ -  อักษรต่ำเดี่ยว   คือ อักษรต่ำที่มีเสียงต่างกับอักษรสูง มี ๑๐ตัว คือ ง ญ ณ น ม ย ร ล ฬ ว การแบ่งพยัญชนะออกเป็น ไตรยางศ์ หรือ อักษร ๓ หมู่ เพื่อเป็น ประโยชน์และง่ายแก่การผันเสียงวรรณยุกต์   หน้าที่ของพยัญชนะ   ๑. ทำหน้าที่เป็นพยัญชนะต้น   เส ียงพยัญชนะทั้ง ๒๑ เสียง สามารถอยู่ต้นพยางค์ หรือ ต้นคำได้ทั้งหมด พยัญชนะต้นแบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภทคือ ๑.๑ พย...